Welcome

ยินดีต้อนรับทุกท่าน

วันอาทิตย์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มงคลที่ ๑๐ การกล่าววาจาสุภาษิต


กล่าววาจาดี   มีมิตร   มากมาย  

ถ้ากล่าวร้าย   มิตรหาย   ทำลายตน

จะอับจน   ข้นแค้น   แสนทุกข์ทน

เกิดเป็นคน   ทั้งที   เอาดียาก

คิดดี   พูดดี   มีสตินำ    

จึงจะทำ   ได้ดี   มีผลมาก

ควรอดทน   อดกลั้น   และเพียรพราก  

คงไม่ยาก   หากมี    ความศรัทธา


วาจาสุภาษิต  คือ อะไร ?

วาจาสุภาษิต  คือ  คำพูดที่ได้รับการไตร่ตรองพิจารณาดีแล้วด้วยความเห็นถูกต้อง  เมื่อพูดแล้วเป็นประโยชน์แก่ตนเองและผู้ฟังด้วย  


องค์ประกอบของวาจาสุภาษิต  มีดังนี้

๑.  ต้องเป็นคำจริง  หมายถึง  เป็นคำพูดที่ตรงตามความเป็นจริง   บริสุทธิ์ใจ  จริงใจ  ไม่แต่งเติมเสริมความให้เข้าใจผิดหรือบิดเบือนจากความจริง  เป็นคำพูดที่ไม่เสียดแทง  ไม่ประชดประชัด  ไม่เป็นคำหยาบคาย

๒.  ต้องเป็นคำพูดที่มีสาระประโยชน์  หมายถึง  พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนและผู้ฟัง  เพราะเหตุว่า การพูดในสิ่งที่ไม่สมควรและไม่เกิดประโยชน์  จะเป็นเหตุให้เกิดผลเสียต่อผู้พูดได้

๓.   พูดด้วยความหวังดี  ด้วยความเป็นมิตรไมตรี  พูดเพื่อประโชน์สุขของผู้อื่น  พูดเพื่อการสร้างสรรค์ความสามัคคี  พูดด้วยคำสุภาพ

๔.  พูดถูกกาลเทศะ  การพูดคำจริงถูกต้องและเป็นประโยชน์  มีสาระน่าสนใจ  แต่ว่าพูดไม่ถูกกาลเทศะ คือ   พูดไม่รู้เวลาและสถานที่  ไม่รู้เมื่อไรควรพูดและที่ใดควรพูด  ก็จะไม่เกิดประโยชน์ตามเป้าหมายได้

                                                           
"ผู้พูดเป็น  ต้องเป็นผู้ฟังเป็นด้วย"


ลักษณะของการพูดที่ดี

๑.  ยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น

๒.  สามารถพูดให้ผู้ฟังเข้าใจได้

๓.  รู้กำหนดเนื้อหาและขอบเขตการพูดให้เหมาะสม

๔.  สามารถจำเนื้อที่พูดทั้งหมดได้ดี

๕.  เข้าใจเนื้อหาที่จะพูดได้ละเอียดถูกต้อง

๖.  สามารถพูดได้ทันทีเมื่อถึงคราวที่ต้องพูด

๗.  ฉลาดในการพูดทั้งที่เป็นสาระและไม่เป็นสาระ

๘.  ไม่พูดชักชวนให้เกิดการทะเลาะวิวาท


อานิสงส์ของการมีวาจาภาษิต

๑.  เป็นคนมีเสนห์  เป็นที่รักของชนทั่วไป

๒.  เป็นผู้มีวาจาสิทธิ์  จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่พูด

๓.  มีความเจริญก้าวหน้าทั้งทางโลกและทางธรรม

๔.  ย่อมได้ยินได้ฟังแต่สิ่งที่ดีงาม

๕.  เป็นผู้ไม่ตกไปสู่ที่ต่ำหรืออบายภูมิ


...............................













ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น