Welcome

ยินดีต้อนรับทุกท่าน

วันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มงคลที่ ๕ เคยทำบุญมาก่อน


                                            บุญคือ   ความดี   ทำให้มีสุข

                                            ห่างไกลทุกข์   เพราะทำ   แต่กรรมดี

                                            จะรวยทรัพย์   ลาภยศ   และศักดิ์ศรี

                                            พวกพ้องมี   ใจรัก   สามัคคี

                                            หากอยากเกิด  มาดี  มีปัญญา

                                            จงใฝ่หา   พระธรรม   นำชีวี

                                             เจริญศีล   ทานแล   บารมี

                                             ชาตินี้   ดีแน่  ไม่ย่ำแย่เอย


บุญ  หรือกุศล  เป็นสภาพธรรมฝ่ายดี  เป็นสภาพธรรมที่มีจริง  คือ จิต  เจตสิก เกิดขึ้นพร้อมกัน  เป็นกุศลจิต เป็นนามธรรม  ขณะที่จิตเป็นกุศลหรือเป็นบุญ  ขณะนั้นจิตสะอาดปราศจากกิเลส  คือ  โลภะ  โทสะ  โมหะ  

การกระทำความดี  หมายถึง  กุศลจิตมีกำลังจนสามารถทำให้เกิดการกระทำความดีออกมาทางกาย  ทางวาจาและทางใจ   เราสามารถกระทำความดีได้หลายประการ ซึ่งเรียกว่า  บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ประการ  ได้แก่

๑. ทานมัย  บุญสำเร็จได้ด้วยการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์  เพื่อบูชาคุณความดี  และเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น

๒.  ศีลมัย  บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากการประพฤติทุจริต   ประพฤติสุจริต ทางกาย  ทางวาจา

๓.  ภาวนามัย  บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส  หมายถึง  สมถภาวนา  และการอบรมเจริญปัญญาเพื่อความพ้นทุกข์ทั้งปวง  หมายถึง  วิปัสสนาภาวนา

๔.  อปจายนมัย  บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน

๕.  เวยยาวัจจมัย  บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น

๖.  ปัตติทานมัย  บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้กระทำแล้วแก่ผู้อื่น

๗.  ปัตตานุโมทนามัย  บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว

๘.  ธัมมัสวนมัย  บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม

๙.  ธัมเทสนามัย  บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม

๑๐. ทิฏฐุชุกรรม  การกระทำความเห็นให้ตรง  ถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรม

เคยทำบุญมาก่อน  หมายถึง  เคยกระทำกุศลกรรมในอดีตชาติไว้แล้ว  เราไม่ทราบเลยว่ากรรมอะไรที่ได้ทำมาแล้ว  แต่ผลจะบ่งบอกได้ว่าเป็นกุศลหรืออกุศลที่ได้สะสมมาแล้ว  ถ้าเป็นผลของกรรมดี  ก็จะได้เห็นแต่สิ่งที่ดี  ได้ยินเสียงที่ไพเราะ  ได้รู้กลิ่นที่ดี  ได้ลิ้มรสที่อร่อย  ได้รู้สัมผัสทางกายที่สะดวกสบาย สภาพธรรมที่เกิดขึ้นรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา  หู  จมูก  ลิ้น  และกาย   เป็นวิบากจิต  คือเป็นผลของกรรมที่ได้กระทำไว้แล้วในอดีต  ส่วนกุศลจิตและอกุศลจิตนั้น  จะเกิดทางใจหลังจากที่วิบากจิตดับไปแล้ว  เป็นเหตุใหม่ซึ่งจะเกิดผลในอนาคต  จะส่งผลเมื่อไรนั้นก็แล้วแต่เหตุปัจจัยหรือกำลังของกรรม    


.........................................

   





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น