Welcome

ยินดีต้อนรับทุกท่าน

วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2556

มงคลที่ ๑๘ การงานไม่มีโทษ


การทำงาน   ใช่ว่า   สักแต่ทำ      

ควรจดจำ   ทำผิด   คิดแก้ไข

หากทำเป็น   เห็นที   จะก้าวไกล     

ทำสิ่งใด   ให้ดี   ไม่มีภัย

แผนงานดี   ไม่มี   ที่ขัดข้อง  

ด้วยถูกต้อง   มีธรรม   ประจำใจ

ไม่ก้าวก่าย   การงาน   ของผู้ใด    

ควรห่วงใย   ในการ   งานของตน


งานไม่มีโทษ  หมายถึง  อย่างไร ?

งานไม่มีโทษ  หมายถึง  งานที่ไม่มีเวรไม่มีภัย  ไม่เบียดเบียนใคร  เป็นงานที่ทำแล้วเกิดประโยชน์แก่ตนเองและผู้อื่น


ความสามารถในการทำงานแบ่งได้  ๒  ประเภท

๑.  ทำได้  หมายถึง  เป็นผู้ที่มีความสามารถทำงาน  แต่ว่าสักแต่ทำให้เสร็จ  ไม่คำนึงถึงประโยชน์  ไม่คำนึงถึงคุณภาพของผลงาน

๒.  ทำดี  หมายถึง  เป็นผู้ที่มีความสามารถทำงานด้วยความรอบคอบ  รู้จักคิดพิจารณาไตร่ตรองงาน  วางแผนงานก่อนทำ  คำนึงถึงผลงานและผลประโยชน์ที่จะได้รับ  ว่าคุ้มกับค่าของเวลาและการลงทุน
หรือไม่  ถ้าพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว  เมื่อเห็นว่าไม่คุ้มก็จะไม่ทำ  ทำเช่นนี้  เรียกว่า  ทำงานดี


หลักการพิจารณางานว่ามีโทษหรือไม่  มี  ๔  ประการ  ดังนี้

๑.  ไม่ผิดกฏหมาย  งานทุกประเภทถ้าทำผิดกฏระเบียบ หรือกฏหมายของสังคมและบ้านเมือง  จัดว่าเป็นงานที่มีโทษทั้งสิ้น   เช่น  การลักลอบขายอาวุธ  ลักลอบขายยาเสพติด  การลักลอบจ้างคนต่างชาติทำงาน  การลักลอบทำงานมืด  ลักลอบเปิดบ่อนการพนัน  เพราะะนั้น  จึงควรพิจารณางานให้ดีเสียก่อนจึงลงมือทำ  จะได้ไม่เป็นโทษ


๒.  ไม่ผิดประเพณี   ประเพณี  หมายถึง  จารีต ขนบธรรมเนียมของมหาชนในท้องถิ่นหนึ่ง ๆ  หรือในสังคมหนึ่ง ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกัน  แต่เมื่อมีคนส่วนมากยึดถือประพฤติปฏิบัติสืบต่อกันมาจนกลายเป็นข้อกำหนดหรือกฏระเบียบของสังคมนั้น ๆ   ก็เรียกว่า  ประเพณี  เช่น  ประเพณีทำบุญขึ้นบ้านใหม่  แต่งงาน  การต้อนรับแขก  การเคารพผู้อาวุโสกว่า  ดังนั้น  ก่อนที่จะทำงานก็ควรพิจารณางาน  ว่าผิดเป็นงานที่ผิดขประเพณีหรือไม่  จะได้ไม่มีโทษมีภัยทำให้ตนเดือดร้อน

๓.  ไม่ผิดศีล  ศีลเป็นคุณธรรมคุ้มครองกายและวาจาไม่ให้กระทำในสิ่งอันเป็นอกุศล  เป็นพื้นฐานของการประพฤติปฏิบัติดี  เพราะฉะนั้น  ก่อนที่จะทำงานแต่ละประเภท  จึงควรพิจารณาก่อนว่าเป็นงานที่ผิดศีลหรือไม่  จะได้ไม่มีโทษแก่ตน

๔.  ไม่ผิดธรรม  ธรรม  คือ  ความถูกต้อง  ความดี  การทำงานต้องคำนึงหลักธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ทรงตรัสไว้  ให้น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวัน  ในการประกอบอาชีพการงาน  พิจารณาไตร่ตรองอย่างรอบคอบ  ถ้าเป็นงานที่ผิดต่อธรรม  ก็ไม่ควรที่จะทำ  เพราะเหตุว่า  เป็นโทษแก่ตนเองและผู้อื่น  


งานหรืออาชีพที่ต้องห้าม  
ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้มีดังนี้

๑.  การค้าอาวุธ

๒.  การค้ามนุษย์

๓.  การค้ายาพิษ

๔.  การค้ายาเสพติด

๕.  การค้าสัตว์เพื่อนำไปฆ่า

ท่านใดประกอบอาชีพทั้ง ๕ ข้อนี้    ย่อมไม่เป็นมงคล  เพราะเหตุ ว่าเป็นงานที่มีโทษอย่างมากแก่ตนเองและเป็นโทษแก่ผู้อื่นได้ด้วย  รวมทั้งอาชีพบางอย่างทำลายเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน  เช่น  ยาเสพติด  ยาพิษ  ฯลฯ


งานที่ไม่มีโทษ  มีดังนี้

๑.  การรักษาอุโบสถศีล

๒.  การทำงานช่วยเหลือกันในทางที่ชอบ

๓.  การสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรม

๔.  การปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงาแก่ผู้เดินทาง

๕.  การสร้างสะพาน  เพื่อให้คนสัญจรไปมาได้รับความสะดวก

๖.  การสร้างประปา  สร้างแหล่งน้ำ  เพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำใช้

๗.  การสร้างห้องสมุดสาธารณะ เพื่อส่งเสริมให้ความรู้แก่คนในชุมชน

๘.  การให้ที่อยู่อาศัยแก่ผู้อื่น

๙.  การตั้งอยู่ในบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ ปะการ

๑๐.  การถึงพร้อมด้วยศีลและการอบรมเจริญสมาธิภาวนา


อานิสงส์ของการทำงานไม่มีโทษ

๑.  หลับเป็นสุข  ตื่นก็เป็นสุข

๒.  เป็นที่ไว้วางใจในสังคม

๓.  ไม่ระแวงใคร

๔.  สามารถประสบความสำเร็จในชีวิต

๕.  มีความเจริญก้าวหน้า

๖.  มีที่ไปคือสุคติ

๗.  เป็นที่เคารพนับถือในสังคม


.................................








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น